นโยบายการรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคล

และ ความเป็นส่วนตัวสำหรับลูกค้า

(Privacy Policy)

 

บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน)

ฉบับ วันที่ 10 พฤษภาคม 2565

นโยบายความเป็นส่วนตัว

บริษัทในกลุ่มคอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) (บริษัทตามที่ระบุในเอกสารแนบท้าย) (ต่อไปนี้เรียกว่า “เรา”) เคารพสิทธิความเป็นส่วนตัวของผู้ให้ข้อมูล (ต่อไปนี้เรียกว่า “ท่าน”) และเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าท่านได้รับความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล จึงได้จัดทำนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ขึ้น

โดยเราจะยึดถือและปฏิบัติตามมาตรฐานในด้านความเป็นส่วนตัวและรักษาความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และเพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลของท่านถูกเก็บใช้ และเปิดเผยเป็นไปตามความประสงค์ของท่านและเป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย ซึ่งจะมีบุคคลที่เกี่ยวข้องดังนี้

เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล (Data Subject)

ผู้ให้ข้อมูล / ผู้ใช้งานเว็บไซต์ / ลูกค้า / ผู้ติดต่อ / พันธมิตรทางธุรกิจ หรือคู่ค้าเป็นต้น และจะรวมไปถึงผู้มีอำนาจกระทำแทนบุคคลต่างๆ ทั้งผู้ปกครอง ผู้อนุบาล ซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลนั้น

ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล (Data Controller)

ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลคือบุคคลหรือนิติบุคคลที่มีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเผยแพร่ข้อมูลส่วนบุคคล กล่าวคือ บุคคลที่ทำหน้าที่ในการเก็บรวบรวม โดยเป็นผู้รับผิดชอบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรง เช่น แผนก หน่วยงาน ของบริษัท ที่เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อใช้ในการดำเนินงานต่าง ๆ  โดยจะมีหน้าที่ในการดำเนินการดังต่อไปนี้

  • จัดให้มีมาตรการในการรักษาความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลให้ดี
  • ดำเนินการป้องกันไม่ให้มีการใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับความยินยอม
  • จัดให้มีการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลหลังจากพ้นระยะเวลาในการเก็บข้อมูล
  • ในกรณีที่มีการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล ให้ผู้ควบคุมข้อมูลนั้นแจ้งต่อ หัวหน้าหน่วยงาน ภายใน 24 ชั่วโมง โดยให้ทำการสรุปสาเหตุ ร่วมกับส่วนงานที่เกี่ยวข้อง ภายใน 24 ชม. และ ส่งข้อมูลต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer: DPO) ภายใน 24 ชั่วโมง เพื่อแจ้งและประสาน หน่วยงานกำกับ PDPA ที่เกี่ยวข้อง (โดยทั้งหมดไม่เกิน 72 ชั่วโมง นับตั้งแต่ทราบเรื่อง)

ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Data Processor)

            ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลคือบุคคลหรือนิติบุคคลที่ดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล “ตามคำสั่งหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล” กล่าวคือ บุคคลที่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลสั่งให้ทำการเก็บรวบรวม ประมวลผล ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ เช่น บริษัทขนส่ง ที่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ส่งข้อมูลให้เพื่อให้ดำเนินการส่งสินค้า เป็นต้น โดยมีหน้าที่ดังต่อไปนี้

  • ดำเนินการตามคำสั่งที่ได้รับจากผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลเท่านั้น
  • จัดมาตรการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลที่เหมาะสม
  • จัดทำ บันทึก และประมวลผลของข้อมูลส่วนบุคคลให้เหมาะสม

เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer: DPO)

เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือ บุคคลที่ได้รับการแต่งตั้ง โดยมีหน้าที่ดังต่อไปนี้

  • ตรวจสอบและการดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลของผู้ควบคุมข้อมูลและผู้ประมวลผลข้อมูล ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
  • ให้คำแนะนำแก่ผู้ควบคุมข้อมูล/ผู้ประมวลผลข้อมูล และบุคคลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เกี่ยวกับการปฏิบัติตาม
  • ประสานงานและร่วมมือกับสำนักงานคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (หรือหน่วยงานกำกับ PDPA ที่เกี่ยวข้อง)
  • รักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลจากการปฏิบัติหน้าที่

และ เพื่อแจ้งให้ท่านทราบถึงรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผย (รวมเรียกว่า “การประมวลผล”) ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดดังนี้

  1. วัตถุประสงค์การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
  • เพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญา หรือเพื่อปฏิบัติตามสัญญา (Contract) ซึ่งท่านเป็นคู่สัญญากับเรา เช่น เพื่อการขายสินค้า และ/หรือ บริการให้แก่ท่าน หรือปฏิบัติตามสัญญาใด ๆ ซึ่งท่านเป็นคู่สัญญา รวมถึง การจัดการ Account ผู้ใช้งานของท่าน จัดส่ง การดำเนินการเกี่ยวกับบัญชีและการเงิน การบริการหลังการขาย การคืนสินค้า หรือดำเนินการใด ๆ เพื่อให้ท่านได้รับสินค้าและ/หรือ บริการ หรือตามที่ท่านได้ร้องขอ
  • เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของเรา หรือของบุคคลอื่น (Legitimate Interest)
    • เพื่อให้เราสามารถจัดการ พัฒนา และดำเนินการใด ๆ เพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจได้ ซึ่งรวมถึง การบริหารจัดการและพัฒนาสินค้า และ/หรือ บริการ (รวมถึงเว็บไซต์ และแอปพลิเคชัน) การตรวจสอบและป้องกันการฉ้อโกง หรืออาชญากรรมอื่น ๆ การจัดการความสัมพันธ์ลูกค้าและผู้ที่อาจเป็นลูกค้า การบำรุงรักษาและการใช้ระบบไอที
    • เพื่อระบุถึงประเด็นปัญหาที่เกี่ยวข้องกับสินค้า และบริการที่มีอยู่
    • เพื่อทดสอบ วิเคราะห์ และพัฒนาสินค้า และบริการใหม่ ๆ
    • เพื่อทำความเข้าใจ และวิเคราะห์ความต้องการ และเพื่อทำการประเมินและสำรวจความพึงพอใจของท่าน
    • เพื่อประโยชน์ทางด้านความปลอดภัย เช่น จัดให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัย ซึ่งรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วย เช่น การเข้าสถานที่ของเรา การ Log in เข้าเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน
    • เพื่อการใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเรา และ/หรือ ท่าน
  • เพื่อป้องกันและระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่านหรือบุคคลอื่น (Vital Interest) เช่น การติดต่อในกรณีฉุกเฉิน การควบคุมและป้องกันโรคติดต่อ
  • เพื่อให้สามารถปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal) เช่น การปฏิบัติตามบทบัญญัติของกฎหมาย กฎระเบียบ และคำสั่งของผู้ที่มีอำนาจตามกฎหมาย
  • เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของเรา หรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐที่ได้มอบให้ (Public Task)
  • เพื่อการให้ความยินยอม (Consent) เราจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
    • เพื่อให้บริษัทในกลุ่มเรา สื่อสารกับท่านเกี่ยวกับกิจกรรมทางการตลาดที่วิเคราะห์แล้วว่าตรงกับความต้องการของท่านผ่านวิธีการใด ๆ รวมถึงอีเมล์ โทรศัพท์ ข้อความทางโทรศัพท์ Social Media จดหมาย หรือสื่อสารต่อหน้า
    • เพื่อพัฒนากิจกรรมทางการตลาด
    • เพื่อให้เราดำเนินการจัดกิจกรรมนอกจากที่กล่าวมาข้างต้น โดยอาจเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพิ่มเติม โดยจะแจ้งให้ทราบและขอความยินยอมจากท่านใหม่เป็นคราวๆ ไป

ทั้งนี้ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับความยินยอมได้ในข้อ 4

  1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวม
  • เมื่อท่านจะซื้อสินค้า และ/หรือ บริการ รวมทั้งการเข้าเป็นสมาชิกเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือบัตรสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ
  • เมื่อท่านได้ทำสัญญาทางธรุกิจ หรือ คู่ค้า กับเรา เช่น การลงนาม การค้า หรือการให้บริการ ต่าง ๆ
  • เมื่อท่านเข้าภายในพื้นที่ เช่น การติดต่อ การสมัครงาน การประชุม หรือเรื่องการเข้าบริการ ต่างๆ

โดย เราจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ดังนี้

  • ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ นามสกุล วันเดือนปีที่เกิด สถานภาพ ที่อยู่ บัตรประชาชน Passport
  • ข้อมูลการติดต่อ เช่น อีเมล เบอร์โทรศัพท์ ที่อยู่ ช่องทางติดต่อในโซเชียลมีเดีย สถานที่ทำงาน
  • ข้อมูลเกี่ยวกับงานของท่าน เช่น อาชีพ ตำแหน่ง ประสบการณ์การทำงาน
  • ข้อมูลเกี่ยวกับการซื้อสินค้า และ/หรือ บริการ เช่น ประเภทสินค้าที่ท่านซื้อ ประวัติการซื้อสินค้า ประวัติการเคลมสินค้า ความพึงพอใจ ข้อร้องเรียน
  • ข้อมูลเกี่ยวกับการเงิน เช่น หมายเลขบัญชีธนาคาร ข้อมูลบัตรเครดิต/เดบิต ข้อมูลรายได้ สิทธิประโยชน์ที่ท่านได้รับ ประวัติการจ่ายเงิน รายได้
  • ข้อมูลที่ท่านได้ให้ไว้แก่เมื่อท่านติดต่อ และ/หรือ ร่วมกิจกรรมต่าง ๆ กับเรา เมื่อบริษัทในเครือเราเข้าพบท่าน ดูแลให้บริการหลังการขาย การทำวิจัย และการสัมภาษณ์
  • เมื่อท่านเข้าชม และ/หรือ ซื้อสินค้าออนไลน์ หรือเข้าชมเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน เราจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล และข้อมูลทางเทคนิค ดังนี้
    • ข้อมูลเกี่ยวกับการสมัครสมาชิก (Registration) เช่น ชื่อ นามสกุล อีเมล เบอร์มือถือ รหัสผ่าน
    • ข้อมูลเกี่ยวกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ท่านใช้ เช่น IP Address หรือ Other Device Identifier
    • ประเภทและเวอร์ชั่นของเบราว์เซอร์ (Browser) ที่ท่านใช้ รวมถึงชนิดและประเภทและเวอร์ชั่นของปลั๊กอินเบราว์เซอร์ (Plug-In Browser)
    • การตั้งค่าเขตเวลา (Time Zone)
    • MAC address และข้อมูลที่อยู่ (Location Data) เฉพาะกรณีที่ท่านใช้บริการ Free WiFi ของเรา
    • Beacon / NFC
    • รุ่นอุปกรณ์และประเภทของอุปกรณ์ ข้อมูลระบุประเภทฮาร์ดแวร์ เช่น หมายเลขประจำเครื่อง (UDID)
    • ข้อมูลระบุประเภทซอฟท์แวร์ เช่น ข้อมูลระบุสำหรับผู้โฆษณาสำหรับระบบปฏิบัติการ iOS (IDFA) หรือข้อมูลระบุสำหรับผู้โฆษณาสำหรับระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ (AAID) ข้อมูลการเชื่อมต่อ ข้อมูลการเข้าถึง ข้อมูลการเข้าใช้งานแบบ single sign-on (SSO)
    • ระบบปฏิบัติการและแพลตฟอร์ม และเทคโนโลยีอื่น ๆ บนอุปกรณ์ที่ใช้ในการเข้าถึงแพลตฟอร์ม
    • เมื่อท่านเข้าเยี่ยมชมร้านค้า หรือบริเวณของเรามีการเก็บภาพและเสียงข้อมูลภาพ หรือวีดิโอที่บันทึกภาพของท่านจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดของเรา ซึ่งข้อมูลดังกล่าวอาจระบุตัวตนของท่านได้ ทั้งนี้ อย่างไรก็ดีเราจะติดป้ายก่อนที่จะถึงบริเวณที่กล้องโทรทัศน์วงจรปิดจับภาพ เพื่อให้ท่านทราบ โปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน “นโยบายการใช้งานกล้องวงจรปิด” และรวมถึง ข้อมูลการบริการ WiFi ภายในร้าน และ สถานที่ ทั้งนี้วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม และประมวลผลข้อมูลดังกล่าวเป็นไปเพื่อวิเคราะห์การไหลของผู้ใช้บริการภายในร้านของเรา และเพื่อนำไปปรับปรุงและพัฒนารูปแบบของร้านและ สถานที่ของเรา
  • เมื่อท่านติดต่อเรา หรือร่วมกิจกรรมใด ๆ กับเรา เราจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ติดต่อ Contact Center การทำ Customer Satisfaction กิจกรรมสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ
  • ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ นามสกุล วันเดือนปีที่เกิด รูปถ่าย หมายเลขบัตรประชาชน หมายเลขใบขับขี่ หมายเลขหนังสือเดินทาง
  • ข้อมูลการติดต่อ เช่น อีเมล เบอร์โทรศัพท์ ที่อยู่
  • ข้อมูลเกี่ยวกับการร่วมกิจกรรม เช่น ประวัติการร่วมกิจกรรมในครั้งก่อนๆ
  • เราอาจมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลชนิดพิเศษตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด เพื่อใช้งานตามวัตถุประสงค์ที่เราแจ้งไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ เช่น
  • เมื่อเราจำเป็นต้องใช้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อประโยชน์ในการรักษาความปลอดภัยของเรา เช่น ข้อมูลชีวภาพ (facial recognition ใบหน้า หรือ ลายนิ้วมือ) เพื่อใช้ในการระบุตัวตน
  • เราอาจเก็บข้อมูลส่วนบุคคลชนิดพิเศษของท่าน แม้ว่าสินค้าหรือบริการนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับข้อมูลชนิดพิเศษโดยตรง เช่น เราจำเป็นต้องใช้บัตรประชาชนของท่าน เพื่อใช้ในการยืนยันตัวตนของท่าน
  • ข้อมูลสุขภาพ เช่น ข้อมูล ประเภทอาหาร ที่ท่านทานได้ เพื่อใช้ในการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ
  • ในกรณีที่จำเป็น เราจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลชนิดพิเศษของท่านโดยได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่านหรือเพื่อวัตถุประสงค์อื่นตามที่กฎหมายกำหนดไว้เท่านั้น ทั้งนี้ เราจะใช้ความพยายามอย่างดีที่สุดในการจัดให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เพียงพอเพื่อปกป้องคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลชนิดพิเศษของท่าน
  1. คุกกี้
    • เมื่อท่านเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัทฯ คุกกี้จะจัดเก็บหรือติดตามข้อมูลเกี่ยวกับการใช้เว็บไซต์ของท่านและนำมาใช้ในการวิเคราะห์กระแส ความนิยม (Trend) การบริหารจัดการเว็บไซต์ ติดตามการเคลื่อนไหวการใช้เว็บไซต์ของผู้ใช้บริการ หรือเพื่อจดจำการตั้งค่าของผู้ใช้บริการ คุกกี้บางประเภทนั้นมีความจำเป็น (Necessary Cookie) เนื่องจากหากปราศจากคุกกี้ที่จำเป็นประเภทนี้แล้ว หน้าเว็บไซต์ของบริษัทฯ อาจจะไม่สามารถใช้การได้อย่างเหมาะสม และคุกกี้ประเภท อื่น ๆ จะช่วยให้บริษัทฯ สามารถปรับปรุงประสบการณ์การเข้าใช้เว็บไซต์ของท่าน และปรับแต่งเนื้อหาตามความต้องการของท่าน อันจะทำให้การท่องเว็บไซต์ของท่านสะดวกมากขึ้น เนื่องจากคุกกี้จะจดจำชื่อผู้ใช้ (ในวิธีการที่ปลอดภัย)
    • โดยปกติ อินเทอร์เน็ตเบราว์เซอร์ส่วนใหญ่ จะให้ท่านตั้งค่าว่าท่านจะยอมรับคุกกี้หรือไม่ หากท่านเลือกไม่ให้มีการติดตามโดยคุกกี้ อาจมีผลต่อการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน และหากไม่มีการเก็บคุกกี้ การใช้งานฟังก์ชันหรือเว็บไซต์ของบริษัทฯ ทั้งหมดหรือบางส่วนของท่านอาจถูกจำกัด โปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน “นโยบายการใช้งานคุกกี้”
  1. การขอความยินยอมและผลกระทบที่เป็นไปได้จากการถอนความยินยอม
  • ในกรณีที่เราเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลโดยอาศัยความยินยอมของท่าน ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมของท่านที่ให้ไว้กับเราได้ ซึ่งการถอนความยินยอมนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย หรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมไปแล้ว
  • หากท่านถอนความยินยอมที่ได้ให้ไว้กับเราหรือปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลบางอย่าง อาจส่งผลให้เราไม่สามารถดำเนินการเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์บางส่วนหรือทั้งหมดตามที่ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ได้
  • หากท่านมีอายุไม่ครบ 20 ปีบริบูรณ์ ผู้ไร้ความสามารถ และผู้เสมือนไร้ความสามารถ ก่อนการให้ความยินยอมโปรดแจ้งรายละเอียด ผู้ปกครองซึ่งมีอำนาจกระทำแทน ให้เราทราบเพื่อให้เราสามารถดำเนินการขอความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองด้วย
  1. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
  • เราจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามประเภทข้อมูลส่วนบุคคลแต่ละประเภท เว้นแต่กฎหมายจะอนุญาตให้มีระยะเวลาการเก็บรักษาที่นานขึ้น ในกรณีที่ไม่สามารถระบุระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลได้ชัดเจน เราจะเก็บรักษาข้อมูลไว้ตามระยะเวลาที่อาจคาดหมายได้ตามมาตรฐานของการเก็บรวบรวม
  • เราจัดให้มีระบบการตรวจสอบเพื่อดำเนินการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาการเก็บรักษาหรือที่ไม่เกี่ยวข้องหรือเกินความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้น
  • กรณีที่เราใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยขอความยินยอมจากท่าน เราจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจนกว่าท่านจะแจ้งขอยกเลิกความยินยอมและเราดำเนินการตามคำขอของท่านเสร็จสิ้นแล้ว อย่างไรก็ดี เราจะยังเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นสำหรับบันทึกเป็นประวัติว่าท่านเคยยกเลิกความยินยอม เพื่อให้ เราสามารถตอบสนองต่อคำขอของท่านในอนาตได้
  1. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้บุคคลอื่น
  • เราเปิดเผยและแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านกับ
    • บริษัทในกลุ่มคอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) ตามเอกสารแนบท้าย และบริษัทในกลุ่มพันธมิตร
    • บุคคลและนิติบุคคลอื่นที่ไม่ได้เป็นบริษัทในกลุ่มของเรา (“บุคคลอื่น”) เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์การเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ เช่น ผู้แทนจำหน่ายของเรา ผู้ให้บริการด้านการขนส่ง (เช่น ไปรษณีย์) ผู้ให้บริการเกี่ยวกับธุรกรรมและการเงิน (เช่น ธนาคาร บริษัทรับชำระเงินแทน) ผู้ให้บริการทางด้านเทคโลยี (เช่น ระบบคลาวด์ ระบบบล็อคเชน บริการส่ง SMS บริการ Data Analytics) ผู้ให้บริการจัดทำโปรแกรม และระบบไอทีต่าง ๆ ผู้ตรวจสอบ บริษัทประกัน ที่ปรึกษา หน่วยงานของรัฐ (เช่น กรมสรรพากร สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน) และบุคคลอื่นที่จำเป็นเพื่อให้เราสามารถดำเนินธุรกิจและให้บริการแก่ท่าน รวมถึงดำเนินการใด ๆ ตามวัตถุประสงค์การเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้
    • เราจะกำหนดให้ผู้ที่ได้รับข้อมูลมีมาตรการปกป้องข้อมูลของท่านอย่างเหมาะสมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเท่าที่จำเป็นเท่านั้น และดำเนินการเพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลอื่นใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจโดยมิชอบ
  1. การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ
  • เราอาจส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบริษัทในเครือหรือบุคคลอื่นในต่างประเทศในกรณีที่จำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญา หรือเป็นการกระทำตามสัญญาระหว่างเรากับบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นเพื่อประโยชน์ของท่านหรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญา
  • เราอาจเก็บข้อมูลของท่านบนคอมพิวเตอร์เซิร์ฟเวอร์ หรือคลาวด์ ที่ให้บริการโดยบุคคลอื่น และอาจใช้โปรแกรมหรือแอปพลิเคชันของบุคคลอื่นในรูปแบบของ Software as a Service (SaaS) และ Platform as a Service (PaaS) ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน แต่เราจะไม่อนุญาตให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลได้ และจะกำหนดให้บุคคลอื่นเหล่านั้นต้องมีมาตรการคุ้มครองความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม
  • ในกรณีที่มีการส่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ เราจะใช้มาตรการที่เหมาะสมเพื่อทำให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะได้รับการคุ้มครองและท่านสามารถใช้สิทธิที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ตามกฎหมาย รวมถึงเราจะกำหนดให้ผู้ที่ได้รับข้อมูลมีมาตรการปกป้องข้อมูลของท่านอย่างเหมาะสมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเท่าที่จำเป็นเท่านั้น และดำเนินการเพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลอื่นใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจโดยมิชอบ
  1. มาตรการความปลอดภัยสำหรับข้อมูลส่วนบุคคล
  • ความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเราและเราได้นำมาตรฐานความปลอดภัยทางเทคนิคและการบริหารที่เหมาะสมมาใช้เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลจากการสูญหาย การเข้าถึงการใช้หรือการเปิดเผยโดยไม่ได้รับอนุญาต การใช้งานในทางที่ผิด การดัดแปลงเปลี่ยนแปลง และการทำลายโดยใช้เทคโนโลยีและขั้นตอนการรักษาความปลอดภัย เช่น การเข้ารหัสและการจำกัดการเข้าถึง เพื่อให้มั่นใจว่าบุคคลที่ได้รับอนุญาตเท่านั้นที่เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและบุคคลเหล่านี้ได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับความสำคัญของการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล
  • เราจัดให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการสูญหาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลจากผู้ที่ไม่มีสิทธิหรือหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลนั้น และจะจัดให้มีการทบทวนมาตรการดังกล่าวเมื่อมีความจำเป็นหรือเมื่อเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไปเพื่อให้มีประสิทธิภาพในการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม
  1. สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
    • ท่านมีสิทธิตามกฎหมายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ดังนี้
      1. การเข้าถึง เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอาจมีสิทธิในการขอเข้าถึงหรือขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผย ทั้งนี้ เพื่อความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทฯ อาจขอให้มีการพิสูจน์ตัวตนก่อนที่จะให้ข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ร้องขอ
      2. การแก้ไขให้ถูกต้อง เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอาจมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ดำเนินการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่สมบูรณ์ ไม่ถูกต้อง ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด หรือไม่เป็นปัจจุบัน ที่บริษัทฯ ได้เก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผย
      3. การโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอาจมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ มีเกี่ยวกับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบที่มีการจัดระเบียบแล้วและสามารถอ่านได้ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ และเพื่อส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น โดยต้องเป็น (ก) ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้ให้กับบริษัทฯ และ (ข) กรณีที่บริษัทฯ ได้รับความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลหรือเพื่อปฏิบัติตามสัญญาที่บริษัทฯ มีกับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
      4. การคัดค้าน เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอาจมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
      5. การระงับการใช้ เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอาจมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล หากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เชื่อว่าข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวไม่ถูกต้อง การเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยโดยบริษัทฯ ไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวหมดความจำเป็นสำหรับวัตถุประสงค์บางประการ
      6. การถอนความยินยอม สำหรับวัตถุประสงค์ที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ให้ความยินยอมแก่บริษัทฯ ในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอาจมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้
      7. การลบหรือทำลาย เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอาจมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ดำเนินการลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผย เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ เว้นเสียแต่ว่า การเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวของบริษัทฯนั้นเป็นไปเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย หรือเพื่อก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย เพื่อการใช้ หรือการปกป้องสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
      8. การร้องเรียน เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอาจมีสิทธิร้องเรียนไปยังหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเชื่อว่าการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ ไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่สอดคล้องกับกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลที่บังคับใช้
        • ทั้งนี้ เราจะพิจารณาและแจ้งผลการพิจารณาตามคำร้องขอใช้สิทธิของท่านโดยเร็วภายใน 30 วันนับแต่วันที่เราได้รับคำร้องขอดังกล่าว และสิทธิตามที่กล่าวมาข้างต้น เป็นไปตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

ท่านสามารถใช้สิทธิหรือศึกษาข้อกำหนดและเงื่อนไข เพิ่มเติมตามกฎหมายได้โดยผ่านช่องทางที่เว็บ ไซต์ที่ท่านได้สมัครใช้บริการและให้ข้อมูลส่วนบุคคลไว้ที่ https://www.comseven.com/pdpa/privacypolicy/

  1. ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลและเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
  • หากท่านมีความประสงค์จะใช้สิทธิ หรือติดต่อสอบถามเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล ท่านสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล DPO (Data Protection Officer) ของบริษัทฯ ตามรายละเอียดที่ปรากฏด้านล่าง
    • กรณีที่มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ เราจะประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับใหม่ผ่านทางเว็บไซต์ นี้ โดยนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับใหม่จะมีผลบังคับใช้ทันทีในวันที่ประกาศ

บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน)

549/1 ถนนสรรพาวุธ แขวงบางนาใต้ เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260

เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล  DPO (Data Protection Officer)

Email: dpo@comseven.com Tel: 02-017-7777

นโยบายความเป็นส่วนตัวการใช้กล้องโทรทัศน์วงจรปิด

(CCTV Privacy Policy)

 

บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน)

ฉบับ วันที่ 6 เมษายน 2565

นโยบายความเป็นส่วนตัว

บริษัทในกลุ่มคอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ”) ใช้อุปกรณ์กล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ในการเฝ้าดูแลพื้นที่ภายในและรอบ ๆ อาคารและสถานที่ เพื่อคุ้มครองชีวิต สุขภาพ และทรัพย์สิน โดยบริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า พนักงาน กรรมการ ผู้รับจ้าง ลูกจ้าง ผู้มาเยือน และบุคคลใด ๆ ที่เข้ามาในพื้นที่ที่ มีการเฝ้าดูแล ทั้งภายในอาคาร สาขา และบริเวณโดยรอบ ผ่านกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (เรียกรวมกันว่า “ท่าน”)

นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลได้ (“ข้อมูลส่วนบุคคล”) ของท่าน

ทั้งนี้ บริษัทฯ อาจแก้ไขนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ได้ทุกเมื่อ และจะแจ้งให้ท่านทราบเมื่อมีการแก้ไขนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ผ่านช่องทางที่บริษัทฯ กำหนด

  1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม

บริษัทฯ เก็บรวบรวมภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว เสียง และภาพทรัพย์สินของท่าน (เช่น ยานพาหนะของท่าน) เมื่อท่านเข้าสู่พื้นที่ที่มีการดูแลภายในอาคาร สถานที่ และสาขา ผ่านกล้องโทรทัศน์วงจรปิด

  1. วัตถุประสงค์และฐานทางกฎหมายที่บริษัทฯ อาศัยสำหรับการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

2.1 บริษัทฯ อาจเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย โอน และดำเนินการใด ๆ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ การบันทึก ถือครอง ปรับ เปลี่ยน แก้ไข ทำลาย ลบ กู้คืน รวม ทำสำเนา ส่ง จัดเก็บ แยก ปรับปรุง หรือเพิ่มข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดและข้อมูลส่วนบุคคลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับท่านเพื่อ

วัตถุประสงค์ในการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด ดังต่อไปนี้

  • ปกป้องคุ้มครอง สุขภาพและความปลอดภัย รวมถึงทรัพย์สินของท่าน
  • ปกป้องคุ้มครอง อาคาร สถานที่ สาขา และทรัพย์สินจากความเสียหาย ความขัดข้อง การทำลาย และจากอาชญากรรมอื่นๆ
  • สนับสนุนหน่วยราชการในการบังคับใช้กฎหมายเพื่อขัดขวาง ป้องกัน และตรวจจับอาชญากรรม รวมถึงการฟ้องร้องเมื่อเกิดอาชญากรรม
  • สนับสนุนการระงับข้อพิพาทที่เกิดขึ้นในระหว่างกระบวนการทางวินัยหรือกระบวนการร้องทุกข์ให้มีประสิทธิภาพ
  • สนับสนุนในการสอบสวนหรือกระบวนพิจารณาที่เกี่ยวข้องกับการร้องเรียนหรือการแจ้งเบาะแส
  • สนับสนุนในการก่อตั้งสิทธิหรือยกขึ้นต่อสู้ในการดำเนินคดีทางแพ่ง ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ คดีแรงงาน
  • สนับสนุนข้อมูลในเชิงวิเคราะห์การขายและการตลาด เพื่อปรับปรุง พัฒนา ความพึ่งพอใจของลูกค้า

2.2 บริษัทฯ จะติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิดในพื้นที่ที่เห็นได้ง่าย พื้นที่ที่บริษัทฯ จะไม่ติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด ได้แก่ ห้องพนักงาน ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ หรือ พื้นที่อื่นใดที่กำหนดให้เป็นพื้นที่พักผ่อนสำหรับพนักงาน

2.3 กล้องโทรทัศน์วงจรปิดของบริษัทฯ ทำงานตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน

2.4 บริษัทฯ จะติดตั้งป้ายที่จุดทางเข้าและทางออก และในพื้นที่ที่มีการสอดส่องดูแลโดยกล้องโทรทัศน์วงจรปิด เพื่อให้ท่านทราบว่าในบริเวณนั้นมีกล้องโทรทัศน์วงจรปิด

 

  1. ฐานทางกฎหมายที่บริษัทฯ อาศัยสำหรับการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

            บริษัทฯ จะไม่เก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย ประมวลผล โอน และ/หรือ ดำเนินการใด ๆ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ การบันทึก ถือครอง ปรับเปลี่ยน แก้ไข ทำลาย ลบ กู้คืน รวม ทำสำเนา ส่ง จัดเก็บ แยก เปลี่ยน หรือเพิ่ม ข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดและข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับท่านโดยไม่ได้รับความยินยอม ยกเว้นในกรณีต่อไปนี้

3.1 เพื่อรักษาประโยชน์อันจำเป็นต่อชีวิต เป็นการจำเป็นต่อการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล

3.2 เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ ในการปกป้องคุ้มครองสุขภาพและความปลอดภัยของท่าน รวมถึงทรัพย์สินของท่าน อาคาร สถานที่ สาขา และทรัพย์สินของบริษัทฯ และกระทำการอื่นใดเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ในการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด บริษัทฯ จะพยายามสร้างความสมดุลระหว่างประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ และของบุคคลภายนอกที่เกี่ยวข้อง แล้วแต่กรณี รวมถึงสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของท่านในการคุ้มครองข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่เกี่ยวข้องกับท่าน นอกจากนี้ บริษัทฯ จะใช้ความพยายามในการหาขั้นตอนวิธีการเพื่อให้ได้มาซึ่งสมดุลดังกล่าวตามความเหมาะสม

3.3 เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย บริษัทฯ มีหน้าที่ในการปฏิบัติตามกฎหมายที่ใช้บังคับ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยและสภาพแวดล้อมการทำงาน บริษัทฯ เห็นว่าการใช้กล้องโทรทัศน์วงจรปิดเป็นมาตรการที่จำเป็นที่จะทำให้บริษัทฯ สามารถปฏิบัติตามหน้าที่ดังกล่าวได้

  1. การเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลภายนอก

4.1 บริษัทฯ จะเก็บข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่เกี่ยวข้องกับท่านไว้เป็นความลับ และจะไม่เปิดเผยหรือโอนข้อมูลดังกล่าวให้แก่ผู้ใด ยกเว้น บุคคลภายนอกที่บริษัทฯ คัดเลือกอย่างระมัดระวังทั้งในปัจจุบันและอนาคตเพื่อปฏิบัติงานตามที่บริษัทฯ ร้องขอ ผู้ที่ได้รับสิทธิ หุ้นส่วนของกิจการร่วมค้า และ/หรือผู้ให้บริการ เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ในการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด ที่ระบุในความเป็นส่วนตัวฉบับนี้

4.2 บุคคลภายนอกที่บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดและข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับท่าน รวมถึง

      • บริษัทในกลุ่ม บริษัทฯ อาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดและข้อมูลส่วนบุคคลอื่นที่เกี่ยวกับท่าน ให้แก่บริษัทในกลุ่ม เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ และของบริษัทในกลุ่ม ในการทำตามวัตถุประสงค์ในการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด
      • หน่วยงานรัฐ และ/หรือหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดและข้อมูลส่วนบุคคลอื่นที่เกี่ยวกับท่านเพื่อปฏิบัติตามกฎหมา หรือเพื่อปฏิบัติตามคำสั่งโดยชอบด้วยกฎหมายของศาล หน่วยงานที่มีอำนาจกำกับดูแล หน่วยราชการ และ/หรือองค์กรของรัฐ
  1. การโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ

5.1 บริษัทฯ อาจเปิดเผย หรือโอนข้อมูลของท่านจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดไปยังผู้ให้บริการจากภายนอกที่อยู่นอกประเทศไทย เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนที่จำเป็นในการปกป้องคุ้มครองสุขภาพ ความปลอดภัย และทรัพย์สินของท่าน การเปิดเผยหรือโอนข้อมูลดังกล่าว จะกระทำได้ต่อเมื่อได้รับความยินยอมจากท่านเท่านั้น เว้นแต่จะมีฐานทางกฎหมายที่สำคัญอื่น ๆ (เช่น เพื่อปฏิบัติตามสัญญาระหว่าง บริษัทฯ และบุคคลอื่นเพื่อประโยชน์ของท่าน) ตามที่กฎหมายที่ใช้บังคับกำหนด

5.2 ถ้าข้อมูลของท่านจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดถูกโอนไปยังประเทศปลายทางที่มาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลไม่เพียงพอตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศไทยกำหนด บริษัทฯ จะดำเนินการตามขั้นตอนที่จำเป็นในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่โอนไปยังบุคคลอื่นในประเทศดังกล่าว เพื่อให้ข้อมูลนั้นได้รับการคุ้มครองในระดับเดียวกับที่บริษัทฯ คุ้มครองข้อมูลของท่านจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด ตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่บังคับใช้อยู่ในขณะนั้น

  1. มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัย

6.1 บริษัทฯ ได้จัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม ซึ่งครอบคลุมถึงมาตรการป้องกันด้านการบริหารจัดการ มาตรการป้องกันด้านเทคนิค และมาตรการป้องกันทางกายภาพ ในเรื่องการเข้าถึงหรือควบคุมการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อรักษาไว้ซึ่งความลับ ความถูกต้องครบถ้วน และสภาพความพร้อมใช้งานของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อป้องกันการสูญหาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจหรือโดยมิชอบ ทั้งนี้ เป็นไปตามที่กฎหมายที่ใช้บังคับกำหนด

6.2 บริษัทฯ ได้จัดให้มีมาตรการควบคุมการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลและการใช้งานอุปกรณ์สำหรับจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ปลอดภัยและเหมาะสมกับการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทฯ ยังได้วางมาตรการจำกัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลและการใช้งานอุปกรณ์สำหรับจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล โดยกำหนดสิทธิเข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้งาน สิทธิในการอนุญาตให้ผู้ที่ได้รับอนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลดังกล่าวได้ และหน้าที่ความรับผิดชอบของผู้ใช้งาน เพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต การเปิดเผย การล่วงรู้ หรือการลักลอบทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล หรือการลักขโมยอุปกรณ์จัดเก็บหรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้วางมาตรการสำหรับการตรวจสอบย้อนหลังเกี่ยวกับการเข้าถึง เปลี่ยนแปลง ลบ หรือถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคล ให้สอดคล้องเหมาะสมกับวิธีการและสื่อที่ใช้ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

6.3 บริษัทฯ จะทำการตรวจสอบและปรับปรุงมาตรการรักษาความปลอดภัยของบริษัทฯ เป็นครั้งคราวตามที่จำเป็นหรือเมื่อมีการพัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้แน่ใจว่ามาตรการรักษาความปลอดภัยของบริษัทฯ มีประสิทธิภาพและเหมาะสม และเป็นไปตามข้อกำหนดขั้นต่ำทางกฎหมาย ตามที่หน่วยราชการที่เกี่ยวข้องกำหนด

 

  1. บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้นานเท่าใด

            บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลของท่านจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดในระบบของบริษัทฯ ไว้ในระยะเวลาเท่าที่จำเป็นเพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ในการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่ระบุในนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ เมื่อบริษัทฯ ไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายให้เก็บข้อมูลของท่านจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดอีกต่อไป บริษัทฯ จะทำการลบข้อมูลของท่านออกจากระบบและบันทึกของบริษัทฯ อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่มีการดำเนินการทางศาลหรือทางวินัย ข้อมูลของท่านจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดอาจถูกเก็บไว้จนกว่าจะสิ้นสุดการดำเนินการดังกล่าว รวมถึงระยะเวลาที่เป็นไปได้ในการยื่นอุทธรณ์ หลังจากนั้นข้อมูลจะถูกลบหรือเก็บถาวรตามที่กฎหมายที่ใช้บังคับกำหนด

  1. สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านมีสิทธิตามกฎหมายดังต่อไปนี้

8.1 สิทธิการเข้าถึง ท่านมีสิทธิเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือขอให้มีการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยคำขอนั้นจะต้องทำเป็นลายลักษณ์อักษรและส่งไปยังช่องทางตามที่ระบุไว้ในส่วนท้าย คำขอของท่านจะได้รับการดำเนินการภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด เราอาจปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามคำขอของท่านได้ในกรณีที่คำขอนั้นอาจมีผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น ทั้งนี้เพียงเท่าที่ได้รับอนุญาตโดยกฎหมายหรือคำสั่งศาล

8.2 สิทธิการแก้ไขให้ถูกต้อง ท่านมีสิทธิขอให้มีการดำเนินการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งเราได้ประมวลผลเกี่ยวกับท่านให้สมบูรณ์ ถูกต้อง ไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด หรือเป็นปัจจุบัน

8.3 สิทธิการโอนย้ายข้อมูล ท่านอาจมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่เรามีอยู่ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ที่มีการจัดเรียงแล้ว และส่งข้อมูลส่วนบุคคลนั้นไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลรายอื่น โดยต้องเป็น (ก) ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้กับเรา และ (2) กรณีที่เราประมวลผลข้อมูลนั้นโดยอาศัยฐานความยินยอมจากท่าน

8.4 สิทธิการคัดค้าน ท่านมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม การใช้ หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการบรรลุประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของเรา (หรือของบุคคลอื่น) ได้ เราอาจปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามคำขอของท่านในกรณีที่เราสามารถแสดงได้ว่ามีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวซึ่งอาจสำคัญยิ่งกว่าประโยชน์ของท่าน หรือถ้าการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเป็นไปเพื่อก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย

8.5 สิทธิการลบหรือทำลายข้อมูล ท่านมีสิทธิขอให้เราดำเนินการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลได้ หากท่านเชื่อว่า (1) ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นหมดความจำเป็นสำหรับวัตถุประสงค์ที่ระบุในคำชี้แจงฉบับนี้แล้ว หรือ (2) ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ถูกเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทั้งนี้ เราอาจปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามคำขอให้ลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ เพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการปฏิบัติตามกฎหมาย

8.6 สิทธิการจำกัดการประมวลผล ท่านมีสิทธิขอให้เราระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหากท่านเชื่อว่าเราหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลนั้นเพื่อวัตถุประสงค์ตามที่ระบุในคำชี้แจงฉบับนี้แล้ว แต่ท่านยังต้องการให้เก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลนั้นไว้เพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการปฏิบัติตามกฎหมาย

8.7 สิทธิการถอนความยินยอม ในกรณีที่ท่านได้ยินยอมให้เราเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมนั้น ณ เวลาใดก็ได้

8.8 สิทธิการยื่นเรื่องร้องเรียน ท่านมีสิทธิยื่นเรื่องร้องเรียนเราต่อหน่วยงานกำกับดูแลการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้ หากท่านเชื่อว่าเราฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ใด ๆ ของเราตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ใช้บังคับ

  1. การติดต่อเรา

หากท่านมีข้อกังวลหรือข้อสงสัยเกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ หรือหากท่านต้องการใช้สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดของท่าน โปรดติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ ได้ที่

บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน)

549/1 ถนนสรรพาวุธ แขวงบางนาใต้ เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260

เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล  DPO (Data Protection Officer)

Email dpo@comseven.com Tel: 02-017-7777

ประกาศ ณ วันที่ 1 มิถุนายน 2565

นโยบายข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงาน

(HR Privacy Policy)

 

บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน)

คณะกรรมการของ บริษัทในกลุ่ม คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) (“บริษัท”) ในฐานะนายจ้างที่รับผิดชอบบริหารจัดการการคุ้มครองแรงงานและสวัสดิการให้แก่พนักงานของบริษัท มีจุดประสงค์ ออกประกาศบริษัท เรื่อง นโยบายข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานฉบับนี้เพื่อให้พนักงานทั้งหมดพึงรับทราบเกี่ยวกับสิทธิ และเงื่อนไขต่าง ๆ อันเกี่ยวเนื่องกับการเก็บ รวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานที่บริษัทดำเนินการ ดังมีรายละเอียดต่อไปนี้

ภายใต้ประกาศฉบับนี้ พนักงานหมายความรวมถึง (1) กรรมการ ผู้บริหาร พนักงานและลูกจ้างที่อยู่ภายใต้สัญญาจ้างแรงงาน (2) พนักงานฝึกงาน (3) พนักงานเกษียณที่เป็นที่ปรึกษาภายใต้สัญญาจ้างทำของของบริษัท (“พนักงาน”)

ข้อ 1 ชื่อประกาศและผลบังคับใช้

1.1    ประกาศฉบับนี้เรียกว่า “ประกาศบริษัท เรื่อง นโยบายข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงาน” และให้มีผลบังคับใช้นับแต่วันที่บริษัทประกาศเป็นต้นไป ทั้งนี้ ให้ประกาศฉบับนี้มีผลบังคับกับพนักงานทั้งหมดของบริษัท

1.2    บริษัทอาจปรับปรุงประกาศฉบับนี้ ตามแต่ละระยะเวลาเพื่อให้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการจ้างงาน หรือการให้การคุ้มครองแรงงานหรือสวัสดิการแก่พนักงาน ทั้งนี้ บริษัทจะแจ้งให้พนักงานทราบถึงการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว โดยประกาศนั้นจะถือว่ามีผลบังคับใช้ทันทีเมื่อถูกประกาศใช้

ข้อ 2 นิยามข้อมูลส่วนบุคคล

“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลที่ทําให้สามารถระบุตัวตนของพนักงานแต่ละบุคคลได้ ไม่ว่าจะเป็นส่วนของข้อมูลที่บริษัท (ก) ได้รับโดยตรงจากพนักงานเอง (ข) ได้รับจากผู้ให้บริการคุ้ม ครองและจัดสวัสดิการคุ้มครองแรงงานภายนอก ที่บริษัทว่าจ้างให้การคุ้มครองแรงงานแก่พนัก งาน หรือ (ค) ได้รับจากการรวบรวม การประเมินผล และจัดทำข้อมูลดังกล่าวขึ้นเพิ่มเติม โดยบริษัทเองในฐานะนายจ้าง ระหว่างการว่าจ้างงานภายใต้เงื่อนไขและข้อกำหนดที่บริษัทกำหนด

ข้อ 3 ข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานที่บริษัทมีความจำเป็นในการประมวลผล ได้แก่

3.1    ข้อมูลที่บ่งชี้ตัวตนพนักงานโดยตรง อาทิ ชื่อนามสกุล เลขที่และสำเนาบัตรประจำประชาชน อายุ สัญชาติ วันเกิด รวมถึงประวัติแสดงคุณสมบัติอื่นที่เกี่ยวข้องกับพนักงานซึ่งได้ให้แก่บริษัทตามแบบฟอร์มการรับสมัครงานและสัญญาจ้างแรงงาน

3.2    ข้อมูลการติดต่อของพนักงาน อาทิ ที่อยู่ตามบัตรประชาชน ที่อยู่ปัจจุบัน เบอร์โทรศัพท์ อีเมล หรือช่องทางสื่อสารอื่น ๆ

3.3    ข้อมูลการชำระเงินที่บริษัทดำเนินการให้แก่พนักงาน อาทิเช่น บัญชีธนาคาร ประวัติการเบิกจ่ายเงินต่าง ๆ รวมถึงเงินเดือน เลขที่ประกันสังคม รายละเอียดประกันสวัสดิการต่าง ๆ รวมถึงรายละเอียดกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือกองทุนอื่น ๆ และรายละเอียดการใช้สิทธิสวัสดิการต่าง ๆ ของพนักงานดังกล่าว

3.4    ข้อมูลประวัติการทำงานและการฝึกอบรมต่าง ๆ ของพนักงาน เช่น ประวัติการเข้าทำงาน ประวัติการลา ซึ่งได้รับการบันทึกโดยระบบบันทึกการทำงานในรูปแบบต่าง ๆ และจากแบบประเมินความสามารถและการวัดผลของบริษัท

3.5    ในกรณีได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากพนักงาน อาจรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวอื่น ๆ เช่น ข้อมูลชีวภาพ ได้แก่ ลายนิ้วมือ ภาพถ่ายจำลองใบหน้า ข้อมูลสุขภาพ (ซึ่งรวมถึงข้อมูลการตรวจสุขภาพประจำปี ใบรับรองแพทย์ หรือรายละเอียดการเบิกค่ารักษาพยาบาล การสุ่มตรวจสารเสพติด การรับการรักษาและวัคซีน โรคประจำตัวต่าง ๆ) เป็นต้น

3.6    ข้อมูลภาพถ่ายทั้งที่เป็นภาพนิ่ง และภาพเคลื่อนไหวของพนักงานที่เข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ที่บริษัทจัดขึ้นทั้งที่เป็นกิจกรรม ส่งเสริมความสัมพันธ์ภายในองค์กร และกิจกรรมการติดต่อสื่อสารกับบุคคลภายนอก

3.7    ข้อมูลชื่อนามสกุล ลายเซ็น และรายการดำเนินการอื่น ๆ ที่บริษัทอาจจัดทำ รวบรวม ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการลงนามและ การจัดทำเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจในทางการที่จ้างของบริษัท

3.8    ข้อมูลส่วนบุคคลอื่นที่พนักงานอาจให้แก่บริษัทเพื่อการประเมิน วิเคราะห์ บริหารจัดการ และจัดหาสวัสดิการเพิ่มเติมอื่น ๆ ที่บริษัทอาจจัดให้แก่พนักงาน เช่น แบบฟอร์มการแสดงความคิดเห็น แบบฟอร์มการเข้าร่วมกิจกรรม เป็นต้น

ข้อ 4 ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องกับพนักงานที่บริษัทมีความจำเป็นในการประมวลผล

4.1    ในกรณีที่บริษัทมีการจัดสวัสดิการ ให้แก่สมาชิกในครอบครัวหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องของพนักงาน ทั้งในลักษณะของสวัสดิการที่ให้แก่ครอบครัวโดยตรง และ/หรือการให้ประโยชน์ในฐานะผู้รับผลประโยชน์จากพนักงาน เพื่อการดำเนินการให้สวัสดิการดังกล่าว บริษัทอาจจำเป็นต้องเก็บ รวบรวม และใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ของสมาชิกครอบครัวหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องของพนักงานดังกล่าว ซึ่งได้แก่แต่ไม่จำกัดเพียง ข้อมูลชื่อนามสกุล ข้อมูลการติดต่อ และเอกสารแสดงตนของบุคคลดังกล่าว รวมถึงกรณีได้รับความยินยอมและจำเป็นสำหรับการให้สวัสดิการที่เกี่ยวข้อง อาจรวมถึงข้อมูลสุขภาพของบุคคลนั้น

4.2    ในกรณีที่พนักงานเป็นผู้ให้ข้อมูลของบุคคลดังกล่าว บริษัทจะถือว่า พนักงานให้การรับประกันว่า พนักงานมีสิทธิอันชอบด้วยกฎหมายในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลดังกล่าว และได้แจ้งความจำเป็นในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล และขอความยินยอมจากสมาชิกดังกล่าวครบถ้วนและถูกต้องแล้ว

ข้อ 5 วัตถุประสงค์การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

ภายใต้กรอบ (1) การปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายเพื่อการคุ้มครองแรงงาน และอื่น ๆ (2) การปฏิบัติหน้าที่ของนายจ้างภายใต้สัญญาจ้างแรงงาน รวมถึง (3) การคุ้มครองและปกป้องสิทธิประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมายของบริษัท บริษัทมีวัตถุประสงค์หลักในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานที่ระบุไว้ ดังนี้

5.1    เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ของบริษัทภายใต้กฎหมาย รวมทั้งกฏ แนวปฏิบัติ หรือคำสั่ง คำแนะนำ หนังสือบอกกล่าว ซึ่งออกโดยหน่วยงานที่กํากับดูแล บริษัทจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงาน เพื่อจุดประสงค์เฉพาะ ได้แก่ การอํานวยความสะดวก และ/หรือควบคุมดูแลการคำนวณชำระภาษีอากร และการหักภาษี ณ ที่จ่าย การจัดทำทะเบียนพนักงาน การประกันสังคม การจัดให้มีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ การฝึกอบรมและพัฒนาฝีมือแรงงาน การคุ้มครองและดูแลอาชีวอนามัยแรงงาน และอาจรวมถึงการตรวจคนเข้าเมือง และ/หรือการได้รับอนุญาตให้ทํางาน/ใบอนุญาตทํางาน (กรณีพนักงานต่างประเทศ) ตามที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนดไว้

5.2    เพื่อการปฏิบัติสิทธิและหน้าที่ของบริษัทในฐานะนายจ้างภายใต้สัญญาจ้างแรงงาน ซึ่งอาจรวมถึง การควบคุมดูแล บริหารจัดการความสัมพันธ์การจ้างงานระหว่างพนักงานกับบริษัท ซึ่งอาจรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อวัตถุประสงค์ ดังนี้ บริษัทมีความจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดของพนักงาน

  1. การบริหารจัดการดูแลการจ่ายเงินเดือน การประเมินผลการปฏิบัติงาน การตรวจสอบดูแล และ/หรือการจัดการเกี่ยวกับผลการปฏิบัติงานของพนักงาน การตั้งเป้าหมายการปฏิบัติงาน การจัดการและ/หรือการบันทึกความสําเร็จ หรือความก้าวหน้าของพนักงาน
  2. การพิจารณาความเหมาะสมในการเลื่อนตําแหน่งของพนักงาน การให้รางวัลหรือผลประโยชน์อื่นใดที่บริษัทอาจจัดให้รวมถึงการพิจารณาออกแบบโปรแกรมการฝึกอบรม (ไม่ว่าจัดขึ้นโดยบริษัทหรือบุคคลอื่น) หรือใช้ในการบังคับมาตรการลงโทษต่อพนักงานที่อาจปฏิบัติไม่สอดคล้อง หรือละเมิดหน้าที่การจ้างงานที่กำหนดไว้ในสัญญาจ้างแรงงานหรือประกาศแรงงานอื่น ๆ ซึ่งถือเป็นการใช้สิทธิของบริษัทในฐานะนายจ้างภายใต้สัญญาจ้างแรงงาน
  3. การจัดการและ/หรือการบริหารสิทธิประโยชน์และสวัสดิการในการจ้างงาน การจัดการเกี่ยวกับการตรวจสอบสิทธิและการยืนยันตัวตนเพื่อให้สวัสดิการ ภายใต้สัญญาจ้างแรงงานแก่พนักงานในส่วนต่าง ๆ เช่น สิทธิประกันภัยและ/หรือข้อเรียกค่าสินไหม การจัดการเกี่ยวกับการตรวจสุขภาพ (ไม่ว่าสําหรับตัวพนักงานเอง หรือสมาชิกในครอบครัว หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องของพนักงานตามเงื่อนไขที่บริษัทจัดหาไว้ให้)
  4. การติดต่อสื่อสาร ประสานงานกับพนักงาน เพื่อวัตถุประสงค์ในการควบคุมดูแลและ/หรือการบริหารจัดการความสัมพันธ์การจ้างงานระหว่างพนักงานกับบริษัทหรือการติดต่อในกรณีฉุกเฉิน

5.3    เพื่อการบริหารจัดการความเสี่ยงภายในองค์กร การใช้สิทธิอันชอบด้วยกฎหมายของบริษัท รวมถึงการปกป้องที่บริษัทอาจจัดให้แก่พนักงาน ซึ่งอาจรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงาน เพื่อวัตถุประสงค์ ดังนี้

  1. การทํากิจกรรมการวิจัย วิเคราะห์และพัฒนา (รวมถึงแต่ไม่จํากัดเฉพาะการสํารวจทําแบบสอบถามและ/หรือการรวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์) เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน สวัสดิการ สิทธิประโยชน์ และสิ่งอํานวยความสะดวกต่าง ๆ รวมถึงการวิจัยเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการของบริษัท รวมถึงเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์การจ้างงานระหว่างพนักงานกับบริษัท หรือเพื่อสิทธิประโยชน์อื่นของพนักงาน
  2. การจัดการกระบวนการทางกฎหมาย การดําเนินการเพื่อให้ได้มาซึ่งสิทธิตามกฎหมาย และการเยียวยาความเสียหาย การต่อสู้คดีหรือข้อเรียกร้องทางศาล และการบริหารจัดการข้อร้องเรียนหรือข้อเรียกร้องใด ๆ
  3. การเก็บบันทึกและจัดทําสถิติ การวิจัยภายใน และ/หรือการรายงานตามกฎหมาย และ/หรือการเก็บบันทึกข้อมูลตามข้อกําหนดต่าง ๆ เพื่อวัตถุประสงค์ในการรายงานของบริษัทและ/หรือบริษัทในเครือ
  4. การจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ขององค์กร โดยอาจมีการเปิดเผยและนำเสนอข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงาน ซึ่งอาจรวม ถึงแต่ไม่จำกัดเพียงภาพถ่าย หรือข้อมูลความเชี่ยวชาญคุณสมบัติของพนักงาน โดยข้อมูลสื่อประชาสัมพันธ์ดังกล่าวนั้นจะถูกนำมาใช้ เปิดเผย ประมวลผล และเผยแพร่ในจดหมาย ข่าว หรือสิ่งตีพิมพ์อื่นใดซึ่งทำขึ้นหรือออกเผยแพร่โดยบริษัททั้งในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์และในรูปแบบกระดาษ
  5. การบริหารจัดการบริหารความเสี่ยง การป้องกันความขัดแย้งทางผลประโยชน์ การควบคุมและกำกับดูแลการทำงานภายในของบริษัท ผ่านกระบวนการต่าง ๆ รวมถึงการตรวจสอบประวัติการทำงานของพนักงานดังกล่าวในอนาคตที่ พนักงานดังกล่าวอาจกลับมาสมัครงานที่บริษัทอีกครั้ง
  6. การเก็บ ควบคุม สํารอง และ/หรือ กู้คืนจากความเสียหายของข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงาน

5.4    กรณีที่พนักงานให้ความยินยอมเป็นการเฉพาะ บริษัทอาจดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงาน ตามวัตถุประสงค์เฉพาะที่พนักงานให้ความยินยอมไว้

ข้อ 6 ระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

6.1    บริษัทมีความจำเป็น ในการจัดเก็บ และรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานตลอดระยะเวลาสัญญาจ้างแรงงานของแต่ละคน และตลอดระยะเวลาที่จำเป็นซึ่งบริษัทมีหน้าที่ต้องเก็บรักษาตามกรอบระยะเวลาในกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

6.2    บริษัทสงวนสิทธิ์ที่จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงาน เป็นระยะเวลาที่เหมาะสมตามกำหนดอายุความ 10 ปีหลังจากหมดหน้าที่ภายใต้สัญญาจ้างแรงงาน เพื่อประโยชน์ในการปกป้อง และการต่อสู้เรียกร้องสิทธิอันชอบด้วยกฎหมายระหว่างบริษัทและพนักงาน ภายใต้สัญญาจ้างแรงงานดังกล่าว และกฎหมายคุ้มครองแรงงาน ทั้งนี้ บริษัทรับประกันว่า การเก็บรักษาข้อมูลดังกล่าวจะไม่กระทบสิทธิของเจ้าของข้อมูลมากเกินสมควร และให้สิทธิเจ้าของข้อมูลในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลได้ตามกฎหมาย

6.3    กรณีการใช้ภาพสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ รวมถึง การจัดทำสถิติ และรายงานเอกสารต่าง ๆ ที่พนักงานได้ดำเนินการในทางการที่จ้างของบริษัท บริษัทสงวนสิทธิ์ในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานดังกล่าว ไว้ตลอดระยะเวลาที่บริษัทอาจมีความจำเป็นทางด้านธุรกิจในการดำเนินการดังกล่าว

ข้อ 7 การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

เพื่อประโยชน์ในการคุ้มครองแรงงานและการจัดสวัสดิการแรงงาน ที่กำหนดไว้ในสัญญาจ้างแรงงานและภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง บริษัทอาจมีความจําเป็นที่จะต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานต่อบุคคลภายนอก เพื่อวัตถุประสงค์อย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างตามที่ได้กําหนดไว้ ซึ่งบุคคลดังกล่าวที่จะได้รับการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้แก่

7.1    ลูกค้า คู่ค้าของบริษัท บริษัทในเครือ รวมถึงผู้ให้บริการภายนอกของบริษัท ซึ่งเป็นผู้ดําเนินการเกี่ยวกับ การให้สวัสดิการ ต่าง ๆ แก่พนักงานแทนและเพื่อบริษัท ได้แก่แต่ไม่จำกัดเพียง ผู้ให้บริการประกันกลุ่ม ผู้ให้บริการบริหารจัดการด้านทรัพยากรมนุษย์ (HRM) หรือให้บริการพัฒนาบุคลากร (HRD) หรือผู้ให้บริการสนับสนุนด้านอื่น ๆ ผู้ให้บริการจัดทำและประมวลผลค่าแรงค่าจ้างและจัดหาสวัสดิการ บริษัทประกันภัย บริษัทที่ให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นต้น รวมถึง ที่ปรึกษาหรือผู้ให้บริการของบริษัท ผู้ดําเนินกระบวนการทางกฎหมาย ทั้งนี้ การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจะดำเนินการเฉพาะภายใต้ขอบเขตที่จำเป็น ภายใต้เอกสารสัญญาการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ที่จะมีการลงนามระหว่างบริษัทและบุคคลที่ได้รับการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว

7.2    บุคคลภายนอกใด ๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับการปรับโครงสร้างองค์กร การควบรวมกิจการ การขาย การร่วมทุน การโอนสิทธิ์ การโอน หรือการจําหน่ายโดยลักษณะอื่นใดซึ่งธุรกิจ ทรัพย์สิน หรือหุ้นของบริษัททั้งหมดหรือบางส่วน ไม่ว่าจะเป็นเพียงการเสนอหรือการดําเนินการจริงก็ตาม (รวมถึงการดําเนินการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการล้มละลายหรือกระบวนการอื่นใดในลักษณะเดียวกัน) ทั้งนี้ การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจะดำเนินการเฉพาะขอบเขตที่จำเป็นภายใต้เอกสารสัญญาการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ที่จะมีการลงนามระหว่างบริษัทและองค์กรภายนอกดังกล่าว

7.3    หน่วยงานของรัฐหรือหน่วยงานกํากับดูแล รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง กรมสรรพากร สำนักงานประกันสังคม กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กรมจัดหางาน ศาลและองค์คณะในการระงับข้อพิพาทอื่นใด หรือหน่วยงานราชการอื่นที่บริษัทอาจอยู่ภายใต้บังคับของคำสั่ง กฎหมาย หรือคำพิพากษา

7.4    ในกรณีได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากพนักงาน บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลอื่นตามที่พนักงานระบุและแจ้งให้บริษัททราบ

ข้อ 8 มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล

8.1    บริษัทรับประกันจัดให้มีมาตรการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการเข้าถึงการใช้ การเปลี่ยนแปลง การแก้ไข หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงาน โดยปราศจากอำนาจ หรือโดยมิชอบ ทั้งนี้ บริษัทจะจัดให้มีการทบทวนมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยดังกล่าว อย่างสม่ำเสมอเป็นปกติ เพื่อความเหมาะสมตามมาตรฐานและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

8.2    ในกรณีที่พนักงานคนใดมีสิทธิเข้าถึงหรือดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลส่วนใด พนักงานดังกล่าวยอมรับและรับทราบหน้าที่ในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลดังกล่าว เช่นเดียวกัน โดยรับประกันชดเชยและชดใช้ให้แก่บริษัทกรณีที่เกิดความเสียหายใด แก่บริษัท อันเกิดจากความบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานดังกล่าว

ข้อ 9 สิทธิของพนักงานในฐานะเจ้าของข้อมูล

บริษัทประกาศยืนยันสิทธิตามกฎหมายของพนักงาน ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานดังกล่าว ซึ่งได้แก่

9.1    สิทธิขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงสิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นปัจจุบันและถูกต้อง

9.2    สิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่บริษัททำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปด้วยเครื่องมือหรือ อุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ รวมถึงสิทธิขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น

9.3    สิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

9.4    สิทธิขอให้ลบหรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ เมื่อข้อมูลนั้นหมดความจำเป็นหรือเมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลถอนความยินยอม

9.5    สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้ ในกรณีเมื่อเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ต้องลบหรือเมื่อข้อมูลดังกล่าวหมดความจำเป็น

9.6    สิทธิถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลที่พนักงานเคยให้ไว้

บริษัทจะพิจารณา และแจ้งผลการพิจารณาคำร้องขอใช้สิทธิของพนักงานให้พนักงานทราบ ภายในระยะเวลาที่เหมาะสมตามที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้ พนักงานสามารถติดต่อมายังบริษัทได้ตามรายละเอียดการติดต่อที่บริษัทได้กำหนดไว้ดังนี้